ทำไมสัญญาจ้างงานถึงสำคัญกว่าที่คิด
02 Sep, 2025 / By
bluepenlawoffice
ทำไมสัญญาจ้างงานถึงสำคัญกว่าที่คิด
เมื่อเริ่มรับคนเข้าทำงานสิ่งแรกๆที่ HR ส่วนมาทำคือการลงชื่อในสัญญาจ้างงาน แต่สัญญาจ้างงานมีอะไรมากกว่าแค่สิ่งที่บอกว่าต่อจากนี้เราเป็นสถานะนายจ้างลูกจ้างกัน
สถานะนายจ้างลูกจ้างไม่ได้เกิดขึ้นด้วยเอกสารสัญญาเพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดว่าสัญญาจ้างต้องทำเป็นหนังสือ หรือเอกสาร การตกลงด้วยปากเปล่าก็ถือเป็นการตกลงว่าจ้างด้วยเช่นกัน พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 5 ที่นิยามคำว่า "สัญญาจ้าง" ว่าเป็นการตกลงกันด้วยวาจาหรือเป็นหนังสือแล้วทำไม่ถึงยังต้องมีเอกสารอีก
การมีเอกสารที่มีลายมือชื่อทั้งสองฝ่ายเพื่อเป็นการอ้างอิงความมีอยู่ของการจ้าง หากวันหนึ่งมีปัญหาก็ไม่ต้องมาเถียงกันว่ามีการจ้างกันหรือไม่ และเมื่อกฎหมายไม่ได้จำกัดว่าหนังสือต้องมีข้อความ หรือห้ามมีข้อความใดๆ แล้ว ทั้งนายจ้างและลูกจ้างสามารถจะระบุอะไรลงไปในเอกสารว่าจ้างก็ได้
แต่ส่วนมากเอกสารสัญญาจ้างจะทำเป็นแบบฟอร์มสำเร็จมาแล้ว คู่สัญญามีแต่เพียงกรอกข้อมูลลงไปในช่องว่าเพียงไม่กี่ช่อง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วสามารถเขียนด้วยลายมือหากมีการตกลงนอกเหนือจากแบบฟอร์มได้โดยไม่ถือว่าเป็นการทำให้เอกสารนั้นเป็นโมฆะแต่อย่างใด
องค์กรหลายแห่งที่ใช้แบบฟอร์มการจ้างงานแบบระบุเพียงเว้นที่กรอกรายละเอียดของลูกจ้าง ระบุตำแหน่ง วันเริ่มงาน และอาจมีข้อความการไม่เปิดเผยความลับสักข้อหนึ่งเพราะเห็นว่าเป็นส่วนสำคัญ แต่ส่วนอื่นที่เกี่ยวกับข้อตกลงในการทำงานระหว่างลูกจ้างกับนายจ้างให้ไปอ้างอิงตามเอกสารส่วนกลางแทน ซึ่งในวันที่ลงนามในสัญญาลูกจ้างก็ไม่ได้เห็นเอกสารว่าหน้าที่(job description) ของตัวเองคืออะไร การวัดประเมินผลงานของตนเอง(KPI) กำหนดไว้อย่างไร เมื่อวันหนึ่งเกิดมีปัญหาระหว่างลูกจ้ากับนายจ้างก็จะมีเพียงสัญญาจ้างที่ร่างไว้แบบกลางๆ ไม่สามารถอ้างอิงได้ว่ามีการตกลง หรือได้มีการทำความเข้าใจระหว่างลูกจ้างกับนายจ้างแล้ว
ดังนั้นคนที่คำหน้าที่ HR ต้องเข้าใจก่อนว่า เมื่อมีใครสักคนที่มาทำงานกับองค์กรต้องระบุให้ชัดเจนว่าองค์กรจ้างเขามาทำอะไร ค่าตอบแทนของเขาในงานที่จ้างคือเท่าไหร่ จะวัดประเมินผลงานเขาด้วยวิธีการใด คะแนนการประเมินเป็นแบบใด หากผ่านจะเป็นอย่างไร ไม่ผ่านจะเป็นอย่างไร ต้องไม่ลืมว่า HR ทำหน้าที่แทนองค์กร ฝ่าย HR เป็นคนจัดทำและจัดเตรียมเอกสารตั้งแต่ต้น การมี หรือไม่มีเอกสารใดๆ รองรับข้อตกลง หรือให้ความยินยอมใด เมื่อเกิดปัญหาความขัดแย้งแล้วเมื่อเรื่องไปถึงหน่วยงานรัฐไม่ว่าจะเป็นพนักงานตรวจแรงงาน หรือศาล อาจถูกมองว่าองค์กรเอาเปรียบลูกจ้างเกินสมควรก็เป็นได้ หากฝ่าย HR มีความกังวลในการแก้ไขเนื้อหาในเอกสารสัญญาจ้างก็เพียงนำเอกสารที่เกี่ยวข้องแนบเป็นเอกสารท้ายสัญญาจ้าง เพียงเท่านี้ก็เป็นการปิดประเด็นความกังวลได้แล้ว.
ทนายความสาธิต
BLUEPEN LAW OFFICE